ตอนที่ 1 : ปฐมบทความรู้ สำหรับการดำน้ำลึก

มีหลายๆคนที่อยากเรียนดำน้ำ แต่ก็หวั่นถึงอันตรายต่างๆที่เคยได้ยินมา อีกใจหนึ่งก็ยากที่จะต้านทานกับความสวยงามใต้ทะเล และการผจญภัยใหม่ๆที่จะได้ค้นพบ ซึ่งการดำน้ำลึกนั้นมีหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึง ไม่ว่าจะเป็น

  1. ดำน้ำลึกๆแล้วปวดหูมั้ย
  2. จะปรับการลอยตัว (Buoyancy) ให้เป็นกลางทำได้ยังไงบ้าง
  3. ทำยังไงให้ไม่เกิดอันตรายจากการดำน้ำ
  4. ดำน้ำลึกๆแล้วจะอยู่ได้นานแค่ไหน

หากคุณได้มาเรียนดำน้ำลึกอย่างจริงจัง ก็จะสามารถหาคำตอบเหล่านี้ได้ไม่ยากเลย แต่เรื่องทั้งหมดที่กล่าวมานั้น สิ่งเดียวที่เป็นจุดเริ่มต้นทั้งหมด และเป็นสิ่งสำคัญมากๆที่คุณต้องรู้จักกันก่อนนั่นก็คือ แรงกดดัน (Pressure)  ซึ่งเมื่อคุณเข้าใจในเรื่องของแรงกดดันอย่างถ่องแท้แล้ว คุณจะสามารถตอบคำถามทั้งหมดข้างต้นได้อย่างแน่นอน

ดังนั้นเรามาเริ่มต้นรู้จักกับ แรงกดดัน กับการดำน้ำลึกกันก่อนดีกว่า

คำถาม : ตอนนี้ที่เรากำลังใช้ชีวิตประจำวัน รอบตัวเรามีแรงกดดันมั้ยนะ

มีสิ่ ตอนนี้ร่างกายเรารับแรงกดดันของอากาศที่อยู่รอบตัวเรา ซึ่งมันหนักเท่ากับ 1 ชั้นบรรยากาศเลยทีเดียว ตัวเราแบกรับน้ำหนักของอากาศทั้งหมดไว้นั่นเอง แต่เราไม่ได้รู้สึกหนักอะไร เพราะว่าเราชินกับมันแล้วนั่นเอง มันจึงหมายความว่า ตอนนี้เรารับแรงกดดันรอบตัวเราอยู่ 1 ชั้นบรรยากาศ หรือ 1 ATM (Atmosphere)

นอกจากนี้หลายคนที่เคยอ่านเรื่องแรงดันกับการดำน้ำคงเคยได้ยินว่า 1 ATM = 1 Bar แต่ในความจริงแล้ว 1 ATM ไม่ได้เท่ากับ 1 Bar เป๊ะๆ โดย 1 Bar = 0.98692 ATM แต่เราก็มักจะปัดเศษให้เป็นจำนวนเต็ม ก็เลยอนุมานว่า 1 ATM = 1 Bar นั้นเอง

คำถาม : แล้วตอนที่เราดำน้ำ แรงกดดันเท่ากับอากาศมั้ยนะ

 

ไม่เท่าแน่นอน เพราะน้ำมีความหนาแน่นมากกว่าอากาศ ถ้าเราลองลากมือมือผ่านน้ำ เราจะรู้สึกว่าต้องออกแรงพอสมควร เพราะมือเรากำลังผ่านตัวกลางที่แน่นนั่นเองแหล่ะ เมื่อเทียบกับเราลากมือผ่านอากาศเราจะรู้สึกเบา ไม่ต้องออกแรงมากใช่มั้ยล่ะ แต่ในความจริงก็ต้องออกแรงอยู่นะ เพียงแต่ว่ามันต้านเราไม่เยอะเท่าน้ำนั่นล่ะนะ แสดงว่าน้ำมีความหนาแน่นมากกว่าอากาศนั่นเอง

คราวนี้เมื่อน้ำมีความหนาแน่นมากกว่าอากาศ ก็จะทำให้น้ำหนักของมันหนักกว่าด้วย ลองจินตนาการว่า เรากำลังแบกถังที่มีน้ำอยู่เต็ม 5 ลิตร กับแบกถังที่มีอากาศอยู่เต็ม 5 ลิตร อะไรจะหนักกว่ากัน ง่ายมาก น้ำจะหนักว่าแน่นอนใช่มั้ยล่ะ

เมื่อเราลงไปดำน้ำ ตัวเราก็จะต้องแบกน้ำหนักของน้ำไว้ และอย่าลืมว่าบนน้ำ ก็ยังมีอากาศอยู่ นั่นแปลว่า เราต้องแบกน้ำหนักทั้งของ น้ำ และ อากาศรวมกันนั่นเอง นักดำน้ำเริ่มเหมือนกรรมกรแบกหามเข้าไปทุกทีแล้วล่ะเนอะ

คำถาม : แล้วเราแบกน้ำหนักทั้งหมดอยู่เท่าไหร่ล่ะเวลาดำน้ำ

 

จากเดิมที่เราเล่าว่า ในตอนนี้เราแบกอากาศอยู่ 1 ชั้นบรรยากาศ หรือ 1 ATM หรือ 1 Bar ยังจำได้กันใช่มั้ย เค้าเลยเทียบเมื่อเราแบกน้ำหนักของน้ำให้เป็นหน่วยเดียวกับที่เราแบบอากาศนั่นล่ะ คือทุกๆ 10 เมตรในน้ำทะเล เราจะแบกน้ำหนักของน้ำ เท่ากับน้ำหนักของอากาศ 1 ชั้นบรรยากาศ (ต่อไปจะใช้ว่า 1 ATM แทนละ) สังเกตมั้ย ว่าปกติเราแบกอากาศ 1 ชั้นบรรยากาศเนี่ย มันสูงตั้งแต่พื้นโลก จนไปหลายร้อยกิโลเมตรเลยทีเดียวนะ

ข้อมูลจาก True Plook Panya

แต่พอเราลงไปในน้ำทะเล ลึกแค่ 10 เมตร เราก็แบกน้ำหนังของน้ำเท่ากับเราแบกน้ำหนักของ 1 ชั้นบรรยากาศแล้ว ก็เพราะน้ำมีน้ำหนักมากว่าอากาศมากนั่นแหล่ะ

ถ้าเราดำน้ำที่ความลึก 10 เมตร เราต้องแบกน้ำหนักของน้ำอยู่ 1 ATM และอย่าลืมว่าบนน้ำก็ยังมีอากาศอยู่ ทำให้นักดำน้ำกรรมกรอย่างเรา ต้องแบกทั้งน้ำหนักของน้ำ และอากาศ รวมกับ 2 ATM เลยนะ แล้วถ้าเราลงไปที่ความลึก 20 เมตรล่ะ ก็ง่ายๆเพราะทุกๆ 10 เมตรเราจะแบกน้ำหนักของน้ำ 1 ATM ที่ 20 เมตร เราก็แบกน้ำหนักของน้ำอยู่ 2 ATM ถูกต้องมั้ย แต่..อย่าลืมว่าบนน้ำมีอากาศ เราต้องแบกน้ำหนักของอากาศด้วย ทำให้ที่ 20 เมตร เราแบกน้ำหนักอยู่ 3 ATM (เป็นของน้ำ 2 ATM และของอากาศ 1 ATM)

ดังนั้นการที่จะตอบคำถามว่าเวลาดำน้ำเราแบกน้ำหนักไว้เท่าไหร่ ก็ต้องดูว่าเราดำน้ำอยู่ที่ความลึกเท่าไหร่ โดยแยกเป็นน้ำหนักของน้ำทะเลที่เราแบกไว้ และน้ำหนักของอากาศที่ผิวน้ำด้วยอีก 1 ATM นะจ๊ะ

เป็นยังไงกันบ้าง เข้าใจถึงน้ำหนักที่เราต้องแบกไว้ตอนเราดำน้ำลึกกันแล้วใช่มั้ย ลองดูรูปเพิ่มเติมถึงแรงกดดัน ในความลึกต่างๆได้เลยนะ จะได้เข้าใจมายิ่งขึ้น ซึ่งน้ำหนักที่เราต้องรับนี่เอง มันก็คือแรงที่กดทับอยู่บนตัวเรา หรือที่เรียกกันว่า แรงกดดันนั่นเอง ยิ่งเราดำน้ำลึก แรงกดดันรอบตัวเราก็จะเยอะขึ้นตามไปด้วย แล้วแรงกดดันมาขึ้น มันทำให้เกิดอะไรกับเราเวลาดำน้ำบ้างล่ะ ใจเย็นๆกันก่อน

เดี๋ยวบทความถัดไป เราจะได้มารู้กันว่าเมื่อแรงดันมากขึ้นจะเกิดอะไรกับสิ่งต่างๆรอบตัวเราบ้าง ไว้ติดตามกันตอนต่อไปนะจ๊ะ

ขอบคุณภาพอ้างอิงจาก www.padi.com

สนใจเรียนดำน้ำ หรือ สนใจเรียนดำน้ำหลักสูตรอื่นๆ ของ PADI
ติดต่อได้ทุกช่องทางด้านล่างนี้จ้า
Line : @yellowoctopus :
FB messenger : m.me/yellowoctopusdive
E-mail : info@yellowoctopus.net
Website : www.yellowoctopus.net

Share :

Related Post

ทำอะไรดีระหว่างพักน้ำ

ในฐานะนักดำน้ำ เราทราบอยู่แล้วว่าการวางแผนดำน้ำนั้น จะต้องอยู่ในช่วงเวลาที่กำหนดทั้งจาก Dive table หรือ Dive computer ที่เราใช้ รวมถึงจะต้องมีเวลาพักน้ำ หรือ Surface interval time ด้วยนั่นเอง ซึ่งยิ่งคุณพักน้ำนาน เวลาในการดำน้ำ Dive ต่อไปก็จะมีเวลาดำน้ำได้นานขึ้น และคุณก็จะสามารถสำรวจจุดดำน้ำที่น่าตื่นเต้นได้นานขึ้นด้วย แต่ระหว่างการพักน้ำ เราจะทำอะไรดีล่ะ ลองดูคำแนะนำของเราบ้างดีมั้ย ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ ใครจะรู้ ต่อไปคุณอาจจะมีกลุ่มดำน้ำใหม่ๆก็ได้ ในระหว่างที่พักน้ำ ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อคุณไป Live aboard นั้น คุณจะอยู่บนเรือทั้งวัน และนั่นเป็นช่วงเวลาที่ดีที่คุณจะได้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ๆ ซึ่งทุกคนล้วนแต่มีความชอบในการดำน้ำเหมือนๆกับคุณนั่นแหล่ะ และบทสนทนาก็มันจะน่าตื่นเต้นเสมอๆ เพราะมันมักจะเกี่ยวกับเรื่องดำน้ำที่น่าสนุกไงล่ะ พักผ่อนเก็บแรง และดื่มน้ำเยอะๆไว้ โดยปกติแล้วเมื่อจบการดำน้ำในแต่ละ Dive คุณก็ควรจะพักผ่อนเพื่อให้ร่างกายพร้อมในการดำน้ำ Dive ต่อไป หากคุณเพิ่งเจอกระแสน้ำแรงมา คุณยิ่งควรพักให้หายเหนื่อยและเตรียมพร้อมกับ Dive ต่อไป อย่าลืมว่าคุณมาพักผ่อนนะ และคุณก็ควรดื่มน้ำเยอะ เพราะคุณอาจจะมีอาการขาดน้ำได้ ดื่มน้ำให้เพียงพอ ร่างกายจะสดชื่นและพร้อมลุยกับ Dive ต่อไป ปฏิบัติตัวตามเวลาที่กำหนด [...]

5 เหตุผลที่คุณควรมี Dive Computer

อุปกรณ์ดำน้ำมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาตลอดหลายปี ซึ่งมันทำให้กิจกรรมดำน้ำสามารถเข้าสู่บุคคลทั่วไปได้ง่ายขึ้น  และ dive computer ก็เป็นอุปกรณ์หนึ่งที่สำคัญและเป็นเหตุผลให้นักดำน้ำมีความปลอดถัยได้ในทุกวันนี้ ระหว่างการดำน้ำ Nitrogen จะละลายเข้าสู่เนื้อเยี่อ และรางกายของเรา เนื่องจากมีแรงดันเพิ่มขิ้นที่เกิดจากการดำสู่ที่ลึก หากเรามี Nitrogen ในร่างกายมากเกินไป คุณอาจพบกับอาการที่เรียกว่า Decompression sickness โดยทั่วไป Decompression sickness มักไม่รุนแรง แต่ในบางกรณีก็รุนแรง จนถึงขั้นเป็นอัมพาต หรือเสียชีวิตได้ หากเรารักษาให้ Nitrogen ละลายเข้าสู่ร่างกายในระดับทียอมรับได้ ความเสี่ยงในการเป็น Decompression Sickness ก็ต่ำลง Dive computer และ Dive table ถูกใช้ในการดำน้ำ เพื่อคำนวณ ความลึก และเวลาในกาดำน้ำ เพื่อหลีกเลี่ยง Decompression Sickness ในขณะที่ Dive table ถูกใช้งานมาหลายปีนั้น Dive computer ก็ได้เริ่มเข้ามาแทนที่ ถ้าคุณยังสงสัยว่า ทำไมต้องใช้ Dive computer ลองดู 5 [...]

การดำน้ำ SCUBA ปลอดภัยหรือไม่?

กิจกรรมดำน้ำ ก็เหมือนดังเช่นกิจกรรมผจญภัยทั่วไป ที่มักจะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง เพราะว่ามนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อหายใจใต้น้ำได้ นั่นจึงหมายความว่า กิจกรรมดำน้ำนั้นเราต้องพึ่งพาอุปกรณ์ดำน้ำตลอดเวลา และมันก็ยังต้องใช้ทักษะทั้งในการหายใจใต้น้ำ การควบคุมตัวเองใต้น้ำ รวมถึงการแก้บัญหาในกรณีฉุกเฉินต่างๆที่อาจเกิดขึ้น ตามที่คุณได้เรียนมาแล้วก่อนที่จะได้รับการรับรอง ให้เป็นนักดำน้ำ เพื่อให้คุณสามารถกลับขึ้นสู่ผิวน้ำได้เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น แต่มันก็ไม่ได้ฟังดูน่ากลัวเกินไปหรอก ถ้าคุณเป็นนักดำน้ำที่ปฏิบัติตามกฏที่ได้ถูกครูที่สอนเรามาพูดให้ฟังหลายรอบจนขึ้นใจ การดำน้ำลึกไม่ได้อันตรายนัก ตราบใดที่คุณฝึกฝนอยู่สม่ำเสมอ และคุณทำตามกฎความปลอดภัยตามมาตรฐานที่กำหนดไว้  ใช้อุปกรณ์ที่ดี อย่างเหมาะสมกับการดำน้ำในครั้งนั้น และคุณดำน้ำตามความสามารถของคุณ คุณจะตายจากการดำน้ำมั้ย? ลองตรงไปสู่คำถามสุดฮิตเลยว่า ฉันจะตายจากการดำน้ำยังไง? จากรายงานของ Driver's Alert Network (DAN) 2012 ใน Diving workshop พบว่า อุบัติเหตุการดำน้ำเกิด 1 ใน 211, 864 ครั้งที่ดำน้ำ ตัวเลขจำนวนนี้ดูเสี่ยงสำหรับคุณหรือไม่? หากเราลองเทียบจำนวนนี้กับกิจกรรมอื่นดูล่ะ ความเสี่ยงจากการดำ SCUBA เทียบกับกิจกรรมอื่น เช่น 1 ใน 5 ,555 คน เสียชีวิตในอุบัติเหตุรถยนต์ที่เกิดขึ้นใน US ของปี 2008 1 ใน [...]

5 คำถามยอดฮิต…ที่นักดำน้ำมักโดนถาม

ทันที ที่เพื่อนของคุณ รู้ว่า คุณได้รับบัตรดำน้ำจาก PADI เรียกได้ว่า เป็นนักดำน้ำเต็มตัว มักมีคำถามตามมาอย่างมากมาย มีทั้งใช้เหตุผล และจินตนาการ ในการตั้งคำถาม ซึ่งพอจะแยกออกมาได้ ห้าคำถามหลักๆ ดังนี้ ::   เวลาดำลงไปลึกได้แค่ไหน การดำน้ำในแต่ละครั้งคนส่วนใหญ่จะคิดว่าเราต้องลงไปจนถึงพื้นของทะเล หรือต้องลงไปจุดที่ลึกที่สุดของทะเล แต่ในความเป็นจริงแล้ว สำหรับนักดำน้ำแบบสันทนาการ และ ผู้ที่เรียน PADI Deep Driver จะสามารถลงไปได้ที่ความลึก 40 เมตร แต่ถ้าคุณเป็นนักดำน้ำ Tec 100 CCR จะสามารถลงไปได้ถึง 100 เมตร เลยทีเดียว และ 332 เมตร คือความลึกที่ นักดำน้ำทำลายสถิติ ลงไปได้ (ความลึกนี้ยังน้อยกว่า หนึ่งในสิบของระยะเรือไททานิคที่จมลง) ในทะเลยังมีความลึกอีกหลายระดับ แต่ไม่ต้องกังวลไป ความลึกที่สามารถลงได้ตามระดับขั้นการเรียนของคุณ ก็ยังมีสิ่งให้สำรวจและค้นหาอีกมากมาย ใต้น้ำมีอะไรให้ดูบ้าง เป็นคำถามที่สั้น แต่เวลาตอบจะยาว และหลากหลายมาก ปัจจุบันนี้มีการค้นพบพืช และสัตว์ทะเล [...]

ตอนที่ 2 : แรงกดดันเพิ่มขึ้น ทำให้ก๊าซมีปริมาตรลดลง

จากบนความก่อนหน้า เรื่อง “ปฐมบทความรู้ ที่ต้องรู้สำหรับการดำน้ำลึก“ เราได้คุยกันถึงเรื่องแรงกดดันกันไปแล้ว ทำให้เราได้เข้าใจกันแล้วว่า เวลาดำน้ำลึก เราจะต้องแบกน้ำหนักรอบตัว หรือร้บแรงกดดันอยู่แค่ไหน ในบทความนี้เราจะได้รู้ถึงผลกระทบที่เกิดจากแรงกดดันในการดำน้ำลึกกันเพิ่มเติมว่ามันกระทบกับการดำน้ำของเราในเรื่องไหนบ้าง คำถาม : ทำไมเมื่อแรงกดดันเพิ่มขึ้น แล้วก๊าซถึงมีปริมาตรน้อยลง ลองนึกถึงลูกโป่งสักลูก มีอากาศอยู่ภายใน แล้วเราเอามือบีบลูกโป่งนั้น จะสังเกตว่าลูกโป่งมีขนาดเล็กลงได้ นั่นก็เพราะว่า เราเพิ่มแรงกดดันไปที่ลูกโป่งด้วยการบีบ ทำให้อากาศที่อยู่ภายในลูกโป่งนั้นมีปริมาตรหรือขนาดเล็กลง   ในทางกลับกัน หากเราลดแรงกดดันลง ก็จะทำให้อากาศในลูกโป่ง ขยายตัวออก ทำให้ลูกโป่งมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นได้นั่นเอง ถ้ายังนึกภาพไม่ออก ลองดู Clip VDO นี้ได้นะ จาก Clip VDO จะเห็นว่าตอนที่เอาลูกโป่งใส่โหลลงจากผิวน้ำไปยังที่ที่ลึกขึ้น ขนาดของลูกโป่งจะมีขนาดเล็กลง นั่นเพราะแรงดันรอบตัวที่เกิดจากน้ำเพิ่มขึ้น จึงบืบให้ขนาดของก๊าซในลูกโป่ง มีขนาดที่เล็กลง ทำให้ขนาดของลูกโป่งเล็กลงด้วยนั่นเอง   ส่วนเมื่อเราน้ำลูกโป่งที่บรรจุก๊าซจากที่ลึก กลับขึ้นมาสู่ที่ตื้น จะเห็นว่าลูกโป่งขยายตัวขึ้น เพราะว่าแรงดันรอบตัวของน้ำนั้นลดลง จึงทำให้ก๊าซที่อยู่ในลูกโป่ง ขยายตัวกลับมา ซึ่งหากก๊าซในลูกโป่งขยายตัวมากขึ้น จนเกิดขีดจำกัดของภาชนะที่บรรจุอยู่จะรับการขยายตัวได้ ก็จะทำให้ภาชนะนั้นฉีกขาดนั่นเอง ซึ่งกรณีนี้คล้ายกับอันตรายของการดำน้ำเมื่อเรากลั้นหายใจนั่นเอง โดยจริงๆแล้วมันเกิดการการเปลี่ยนแปลงแรงกดดันนั่นเอง คำถาม : [...]